วันที่ 28 พฤษภาคม 2564 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความเผื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังจะไปฉีดวัคซีน โดยได้โพสต์ระบุว่า โพสต์นี้หวังว่าจะเป็นประโยชน์และเป็นข้อมูลสำหรับผู้จะรับวัคซีน Sinovac นะคะ
ตาและจูนไปรับวัคซีน sinovac วันที่ 14 พ.ค. 2564
หลังจากฉีดแล้วนั่งพัก 30 นาทีเพื่อสังเกตอาการข้างเคียงหลัง ฉีดจูนไม่มีอาการผิดปกติอะไร ส่วนตามึนหัวเล็กน้อย เมื่อไม่มีอาการร้ายแรงทางจนท.ก็นัดฉีดวัคซีนเข็มที่ 2
วันที่19 พ.ค. 2564 จูนมาขอลางาน บอกว่ารู้สึกไม่ค่อยสบาย ช่วงเย็นไลน์มาบอกว่าแอดมิท บอกว่าจู่ๆก็วูบ รู้สึกใจสั่นก่อนเป็นลม จูนบอกว่านี่เป็นการเป็นลมครั้งแรกในชีวิตจูน หมอให้แอดมิทรอดูอาการ ระหว่างที่แอดมิท ตรวจเลือด x-rayปอด EKG วัดความดันทุก2ชม. และตรวจโควิด ผลออกมาทุกอย่างปกติ มีความดันต่ำอย่างเดียว หมอวินิจฉัยว่าสาเหตุน่าจะเป็นเพราะความดันต่ำ เครียด ออฟฟิศซินโดรม พักผ่อนน้อย แนะนำออกกำลังกาย
วันที่20 พ.ค. 2564 discharge
วันที่22 พ.ค. 2564 ไลน์ไปถามจูน ว่าเป็นยังไง
วันที่27 พ.ค. 2654 ประมาณ 7.30 น.แฟนจูนโทรมา
บอกว่า จูนarrest ปั๊ม 6 รอบแล้วยังไม่ขึ้น สามีรีบไปรพ. 8.30 น. สามีส่งข่าวว่าชีพจรกลับมาแล้วตอนปั๊มรอบที่7 แต่ให้ยาเยอะมาก กำลังจะพาจูนไปทำ CT ระหว่างรอก็คุยกับแฟนจูนเล่าให้ฟังว่า ตอนเช้าตื่นมาเห็นจูนเข้าห้องน้ำ หายไปซักพัก ได้ยินเสียงดังโครมคราม เลยเข้าไปดู เห็นจูนทรุดอยู่กับพื้น ข้าวของกระจัดกระจาย เหมือนจูนปาของ พยายามทำเสียงดังๆ ให้ได้ได้ยิน ตอนเจอยังรู้สึกตัว แต่ไม่ได้พูดอะไรแฟนรีบโทรเรียกรถพยาบาล ระหว่างรอรถจูนนิ่งไป แฟนเลยปั๊มรอจนรถมา
ผลตรวจ CT scan เจอ ลิ่มเลือดในปอด (PE) หมอ
บอกสุดทางยาแล้ว ต้องใส่เครื่อง ecmo
ตอน 2 ทุ่ม น้องที่รพ.โทรมาบอกสามีว่าจูนเสียแล้วตอน 6 โมงเย็น เหมือนร่างกายไม่รับกับเครื่องecmo ที่ใส่ไป
ส่วนตาเองเจ็บหน้าอกข้างซ้ายมา 3-4 วัน กังวล เลยโทรปรึกษาอ.หมอcardio แล้วเล่าเรื่องจูนให้ฟัง คำถามแรกที่อ.ถาม น้องเค้ากินยาคุมมั๊ย เพราะกินยาคุมโอกาสการเกิดลิ่มเลือดสูงอยู่แล้ว การฉีดวัคซีนอาจจะเพิ่มโอกาสทำให้เกิดขึ้นได้
และอาการที่แสดงออกของจูนก็บ่งบอก ความดันต่ำ เป็นลม ขึ้น-ลงบันไดแล้วเหนื่อยง่าย
ยอมรับเลยว่า ข้อมูลตรงนี้ตาไม่เคยรู้มาก่อนเลย ก่อนไปฉีดก็หาข้อมูล ว่าข้อควรปฎิบัติก่อนฉีดมีอะไรบ้าง ก็เจอแต่ห้ามทานกาแฟ พักผ่อนให้เต็มที่ กินน้ำเยอะๆ
เรื่องการกินยาคุมไม่ได้หาข้อมูลเลยเพราะว่าตาเองไม่ได้กิน
ที่ออกมาแชร์เรื่องนี้เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันใกล้ตัวมากๆ ไปฉีดวัคซีนด้วยกัน ใครจะคิดว่าอีกคนจะเสียชีวิต ตาไม่ได้บอกว่าเป็นเพราะวัคซีน จูนอาจจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดลิ่มเลือดอยู่แล้ว แต่วัคซีนที่ฉีดก็อาจจะเพิ่มโอกาสที่จะทำให้เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน อย่างน้อยที่สุดการเสียชีวิตของจูนก็ก็น่าจะเป็นคำแนะนำสำหรับผู้ที่จะได้รับวัคซีน
เข้าใจว่าวัคซีนโควิดเป็นวัคซีนใหม่ ปฏิกิริยาต่างๆที่มีต่อร่างกาย หรือต่อยาที่เราทานในร่างกายยังไม่สามารถบอกได้แน่ชัด แต่การที่มีผู้ได้รับวัคซีนเกิดอาการข้างเคียงต่างๆ หน่วยงานที่รับผิดชอบควรรวมรวมข้อมูล และสรุปออกมาเป็นคำแนะนำ อย่างกรณีเคสจูน ถ้าก่อนหน้านี้มีคำแนะนำ
**คำแนะนำ ผู้ที่ทานยาคุมติดต่อกันเป็นเวลานาน ถ้ายาที่ทานเป็นยาที่ไม่ได้จำเป็นหรือถ้าหยุดทานแล้วไม่ได้มีอันตรายต่อชีวิต แนะนำควรหยุดยาก่อนเป็นเวลาเท่าไหร่ก็แจ้งไป ก่อนรับวัคซีน
จูนอาจจะไม่เสียชีวิต ไม่ใช่อะไรๆก็บอกไม่ได้เป็นเพราะวัคซีน เอาแต่โทษนู่นโทษนี่ แต่ไม่ยอมรับ
แล้วที่สปสช.ประกาศว่ากรณีเสียชีวิต ทุพพลภาพถาวร หรือเจ็บป่วยเรื้อรังที่ต้องรักษาตลอดชีวิต จ่ายไม่เกิน 4 แสนบาท ถามว่าทุกเคสที่เกิดมีเคสไหนบ้างที่ระบุว่า สาเหตุเกิดจากวัคซีน ทำไมหรา จะมีสาเหตุมาจากวัคซีนได้ คือต้องฉีดปุ๊บแล้วตายเลย?
คนที่ร่างกายปกติ สุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว พอได้รับวัคซีนแล้วเสียชีวิต ก็น่าจะชัดอยู่แล้วว่าวัคซีนมีส่วน แต่ล่ะคนใช้ระยะเวลาไม่เท่ากันอยู่แล้ว
ขออย่าให้มีเคสแบบจูนเกิดขึ้นอีกเลย คนที่กำลังจะแต่งงาน มีชีวิตครอบครัว ได้อยู่กับคนที่รักต้องมาตาย
เพราะ#วัคซีนที่เราเลือกไม่ได้
ขอบคุณ Rattanaporn Pornprachawat