ปัจจุบัน [เงิน] กลายเป็น ปัจจัยสำคัญ ของชีวิตทุกครัวเรือน จึงส่งผลทำให้มนุษย์อย่างเราๆต้องทำงานหนักมากขึ้น เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายใน ชีวิตประจำวัน บางคน ทำงานหนัก มากเกินไป จึงทำให้ป่วยเป็นโรคภัยได้ง่าย เช็คด่วนเลยคะ!!! วันนี้เรามี ” 5 สัญญาณเตือน ว่าคุณทำงานหนักเกินไป ” ที่จะบ่งบอกว่าตัวคุณ หักโหมกับงาน มากไปหรือเปล่า เราเองก็ต้องเบาบ้าง ผ่อนบ้าง อย่าปล่อยให้ร่างกายรับไม่ไหวนะคะ เดี๊ยวจะน็อคเอา
1. ป่วยกันยาวๆ ร่างกายชักไม่ค่อยเป็นมิตรกับคุณแล้ว ระบบภูมิคุ้มกันง่อยเปลี้ยเหมือนทีมท้ายตารางกำลังตกดิวิชั่น แม้โรคหวัดตามฤดูกาลก็อาจเล่นงานคุณจนเฉียดตายได้ โรคที่คุณไม่คาดคิดว่าจะเป็นอย่างริดสีดวงเริ่มทำให้ชีวิตช่วงเช้ายากขึ้น กล้ามเนื้ออักเสบและปวดเมื่อยตามอวัยวะต่างๆ จากอิริยาบถและสภาพแวดล้อมในที่ทำงานที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานานๆ ตามอาการสุดฮิตสมัยนิยม ‘ออฟฟิศซินโดรม’
2. ทำผิดเล็กๆ น้อยๆ แต่บ่อยครั้ง ใครๆ ก็ทำพลาดกันทั้งนั้น แต่หากมันบ่อยไป แสดงว่าความเหนื่อยล้าทำให้คุณประเมินสภาพแวดล้อมอย่างบิดเบือน หรือไม่สามารถอ่านมันออกอย่างแจ่มชัด เช่น เริ่มรับคำสั่งมาแบบผิดๆ ถูกๆ ไม่กล้าซักถามความเห็น หรือไม่เข้าใจความรู้สึกของคนรอบข้างที่พยายามสื่อสาร (แน่นอนมีงานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่า เมื่อคุณเหนื่อยล้าทำให้ทักษะการตีความรู้สึกระหว่างบุคคลเลวลง แม้การยิ้มเฉยๆ ก็อาจทำให้คุณคิดว่ากำลังโก่งคิ้วสงสัย หรือพยายามจับผิดคุณอยู่)
3. ลืมจุดประสงค์ที่แท้จริง คนที่ทำงานหักโหมเป็นเวลานาน สูญเสียทักษะการมองเห็นภาพรวม และมีประสิทธิภาพการทำงานแย่ลง ถูกดูดกลืนไปกับเนื้องานจนมองข้ามปัจจัยที่สนับสนุนความสำเร็จอื่นๆ งานที่ออกมามักต่างจากความคาดหวังในจุดเริ่มต้น เพราะเราขาดเวลามานั่งถามตัวเองว่าทำอะไรอยู่ และนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดอื่นๆ อีกด้วย
4. ดื่มเป็นลิตร สูบจัดเป็นซอง ภายใต้ความกดดัน การหาวิธีผ่อนคลายที่รวดเร็วที่สุดคือการออกไปสูบบุหรี่สักม้วน แต่ในความเป็นจริงมันมักไม่จบแค่มวนเดียว บ่อยครั้งถึงกับหมดซอง จำนวนบุหรี่เริ่มเพิ่มขึ้นผันแปรตามจำนวนไฟแช็คที่คุณวางทิ้งไว้ตามที่ต่างๆ เพื่อให้เอื้อมถึงได้สะดวก ปริมาณบุหรี่คือเครื่องชี้วัดอีกตัวเพื่อบ่งบอกว่าคุณอยู่ในภาวะวิตกกังวล และไม่มีทางเลือกมากนัก
5. โกรธง่าย หมู่นี้คุณอ่อนไหวมากขึ้นหรือเปล่า หรือจุดเดือดต่ำกว่าที่เคยเป็น หรือรู้สึกถูกคุกคามทางอารมณ์จากสิ่งเร้าเล็กๆ น้อยๆ มุกตลกคลายเครียดที่เคยเล่นหัวกันกลายเป็นความดูถูกเหยียดหยาม กระแสความคิดคนรอบตัวมีแต่จะทำให้คุณฟิวส์ขาด แต่กระนั้นสิ่งเหล่านั้นดูไม่หนักหนา เมื่อเทียบกับการที่คุณเริ่มมีพฤติกรรม คุกคามตัวเอง (Offence to Self) เมื่อไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ หรือทำได้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น และลงโทษตัวเองจากความผิดพลาด เช่น ไม่นอน ไม่กิน จนกว่างานจะสมบูรณ์ที่สุด