คุณบ้างานหรือเปล่า

บ้างาน….เมื่อคุณลองฟังดูแล้วรู้สึกอะไรหรือเปล่า ? การทำงานไม่ว่าจะเป็นงานประเภทไหนก็ตาม เมื่อคุณทุ่มเทกับมันมากจนเกินไป ร่างกายคุณก็จะค่อยๆ ทรุดตัวลงกว่าคนปกติที่ทำงานประเภทเดียวกับตัวคุณ บางคน ทำงานจนลืมวันเวลา แต่หนักกว่านั้นก็คือ ลืมครอบครัว นี้แหละคะ ” เช็คด่วน!!! คุณบ้างานหรือเปล่า ” เบาบ้าง ผ่อนบ้าง เพราะบางสิ่งบางอย่างที่คุณคิดว่าทำมากแล้วได้มาก มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป…ตามลงไปอ่านกันเลยดีกว่าคะ

1.คุณทำงานนานกว่าเพื่อนในที่ทำงาน มาก็มาก่อนแถมยังกลับทีหลังอีก น่าชื่นชมจริงๆ …แต่มันบ่งบอกได้ชัดเจนเลยว่า คุณกำลังมีความอยากทำงานมากจนเกินไป เพราะคิดว่าจะผลิตงานได้เยอะขึ้น ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัย North Carolina ในสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวไว้ว่า การพักผ่อนและการดูแลตัวเองให้มากขึ้น จะทำให้คุณผลิตงานได้มากขึ้นในเวลาที่น้อยลง แถมงานที่ออกมายังมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยล่ะ

2.คุณหยุดคิดถึงงานไม่ได้ เคยคิดถึงงานมากกว่าคิดถึงแฟนมั้ยครับ? หรือไม่ว่าจะเป็นคนอื่นๆ ก็ตาม เช่น ครอบครัว พี่-น้อง เพื่อน ฯลฯ ถ้าคุณเป็นคนที่คิดถึงงานก่อนสิ่งอื่นแล้วล่ะก็ ยินดีด้วยครับ คุณเข้าข่ายของการคนบ้างานแล้วล่ะ คุณจะคิดถึงการทำงานที่ออฟฟิศและอยากจะกลับไปทำงานเสมอ ไม่ว่าจะเป็นตอนพักผ่อนกับครอบครัว ตอนไปเที่ยวกับเพื่อนๆ หรือไปเดทกับคนรักของคุณก็ตาม ซึ่งผลเสียที่ตามมาคือจะทำให้ร่างกายของคุณเกิดความเครียดเนื่องจากไม่สามารถตอบสนองความต้องการของจิตใจได้นั่นเอง

3.ร่างกายเริ่มแย่แม้จะไม่มีโรคภัย นี่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่ากลัวเลยทีเดียว เพราะคุณจะไม่รู้สึกตัวเลยว่าร่างกายของคุณนั่นเริ่มจะรับไม่ไหวกับงานหนักๆ ที่ถูกสะสมมาเป็นเวลานาน เนื่องจากคนที่บ้าทำงานนั้นจะมีพฤติกรรมที่ทำร้ายร่างกายอย่างต่อเนื่อง อาจไม่รุนแรงมากแต่จะเป็นทีละนิด เช่น ทำงานจนทานอาหารไม่ตรงเวลา บางครั้งก็รีบทานจะเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด หรือไม่ก็เลือกซื้อจั้งค์ฟู้ดมารับประทานที่ออฟฟิศเลยก็มี, ไม่ค่อยไปออกกำลังกายเพราะกลัวว่าจะไม่ได้ทำงานหรือกลัวงานไม่เสร็จ, นอนก็ไม่เป็นเวลาทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ ฯลฯ หากเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำๆ กันเป็นเวลานานแล้วล่ะก็ ร่างกายของคุณก็อาจจะทรุดจนถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลนอนหยอดน้ำเกลือกันเลยทีเดียว

คัดลอกและวางโค้ดนี้ในเว็บไซต์ของคุณ

4.ความสัมพันธ์ของคุณและคนรอบข้างเริ่มสั่นคลอน ไม่ว่าจะกับครอบครัว, คนรักหรือเพื่อนสนิท จะเริ่มรู้สึกว่าคุณไม่มีเวลาให้ ถ้าเมื่อไหร่ที่คนใกล้ตัวคุณเริ่มพูดว่า “ไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะ” หรือ “ก็คุณไม่เคยว่างนี่” แสดงว่าถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วล่ะอย่าปล่อยให้คนใกล้ตัวรู้สึกน้อยใจ ปล่อยวางตัวเองออกจากงานบ้าง ยิ่งถ้าเป็นคนที่แต่งงานมีครอบครัวแล้วล่ะก็ ผลวิจัยของผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัย North Carolina บอกว่าคนที่บ้างานมีโอกาสกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ที่ทำให้เกิดการหย่าร้างเลยทีเดียว อีกทั้งถ้าคุณมีลูกๆ ก็อาจจะทำให้ลูกคุณเกิดอาการวิตกกังวลและซึมเศร้าได้ด้วย

5.คุณยึดติดคุณค่าของตัวเองไว้กับงาน ใช่แล้วครับ “ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน” แต่คุณไม่ควรวางคุณค่าของตัวเองไว้กับงานนะ คนส่วนใหญ่มักไม่พึงพอใจกับตัวเอง เพราะต้องการให้งานออกมาสมบูรณ์แบบเพื่อที่จะได้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า ซึ่งจะทำให้ตัวคุณเกิดความกดดันมากขึ้น ความจริงแล้วคุณค่าของคนไม่ได้วัดกันแค่ผลของงานเท่านั้นนะครับ การเป็นคนดีหรือการช่วยเหลือสังคม ฯลฯ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนมีคุณค่าอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นปลดปล่อยตัวเองออกจากความสมบูรณ์แบบและการยึดติดคุณค่าของตัวเองออกจากงานกันเถอะ

มีข้อเสียเยอะขนาดนี้ ถ้าใครเริ่มเป็นแบบนี้ซักข้อสองข้อแล้วล่ะก็ มาเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองกันเถอะ ก่อนที่งานจะทำร้ายตัวคุณเองและคนรอบข้าง ถึงแม้ว่าสมัยนี้การทำประกันสุขภาพไว้เผื่อในเวลาฉุกเฉินจะเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนต้องทำ แต่การป้องกันไว้ก่อนก็ดีกว่ามานั่งแก้ทีหลังใช่มั้ยล่ะคะ

Facebook Comments