“อะโวคาโด” (avocado) เป็นอาหารที่คนรักสุขภาพและความงามหลาย ๆ คนกล่าวถึงและซื้อมารับประทานกัน ยิ่งปัจจุบันยิ่งแพร่หลายและหาทานง่ายมากขึ้น ทำไมอะโวคาโดจึงเป็นอาหารที่หลายคนคิดถึง มันมีดีอย่างไร ลองมาทำความรู้จักกันหน่อยไหม?
ลักษณะทั่วไปของอะโวคาโด ผลอโวคาโด้จะมีสีเขียวเข้ม ผิวขรุขระ มีเปลือกหนา เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงหรือสีดำ เนื้ออะโวคาโดจะมีลักษณะเป็นครีมอ่อนนุ่มรสชาติจะมัน ๆ คล้ายกับรสนม ไม่มีกลิ่น สีเหลือง มีเม็ด 1 เม็ดตรงกลาง
สารอาหารในอโวคาโด อะโวคาโดขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ต่าง ๆ มาก ไม่ว่าจะเป็นวิตามินอีที่ช่วยบำรุงผิวพรรณโพแทสเซียมช่วยลดความดันโลหิต โฟเลทช่วยลดความดันโลหิต วิตามินเอช่วยบำรุงสายตา วิตามินบีช่วยลดอาการเหน็บชา วิตามินซีช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการไข้หวัดและเลือดออกตามไรฟัน สารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอความชราและลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง นอกจากนี้ยังมีกรดไขมันดีชนิดไม่อิ่มตัวที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดและป้องกันโรคหัวใจได้ ยังไม่หมดแค่นั้นยังจะมีสารแคโรทีนอยด์ต่างๆ ถึง 11 ชนิด ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงโดยจะพบมากบริเวณเนื้อที่เป็นสีเขียวเข้มที่ติดกับใต้เปลือกอีกด้วย
ประโยชน์ของอะโวคาโด ดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้นจะเห็นได้ว่าอะโวคาโดมีสารอาหารและวิตามินต่าง ๆ มากมายจึงให้ประโยชน์กับร่างกายได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็น
1.ช่วยลดน้ำหนัก อะโวคาโดขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้ลดน้ำหนักและไขมันเลวได้อย่างดีเยี่ยมโดยจะไปช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดให้ต่ำลง จึงเหมาะกับการลดน้ำหนักเป็นอย่างมาก ซึ่งจากการวิจัยของ North-West University ในประเทศแอฟริกาใต้ จะพบว่าคนที่กิน
อะโวคาโดเป็นประจำทุกวัน ในปริมาณวันละ 200 กรัม จะลดน้ำหนักและไขมันเลวได้สูงมากขึ้น ซึ่งก็เป็นเพราะไขมันที่อยู่ในโอคาโด้เป็นไขมันชนิดดีต่อร่างกายนั่นเอง
2.ป้องกันและบรรเทาอาการเหน็บชา สำหรับผู้ที่มีปัญหาปลายเส้นประสาทเกิดอาการเหน็บชาบ่อย อะโวคาโดมีวิตามินบีสูงจึงช่วยลดอาการเหน็บชาได้ หากรับประทานอะโวคาโดเป็นประจำหรืออย่างน้อยก็ช่วยลดความถี่ในการเกิดเหน็บชาได้
3.ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน ในอโวคาโดมีวิตามินซีสูงเช่นกันจึงสามารถป้องกันปัญหาเลือดออกตามไรฟันได้ อีกทั้งยังช่วยดูแลเหงือกและฟันให้แข็งแรงหากตอนนี้ใครมีอาการเหงือกบวมแดงและมีเลือดออกตามไรฟันลองทานอะโวคาโดจะไม่ผิดหวังแน่นอน
4.ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง เนื่องจากในอโวคาโดมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงจึงช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้อย่างดี อีกทั้งยังไปช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งได้อีกด้วย สำหรับใครที่กำลังเป็นโรคมะเร็งอยู่คุณอาจรับประทานอะโวคาโดเพื่อช่วยดูแลร่างกายเป็นการบรรเทาอาการได้เช่นกัน
5.ช่วยป้องกันและบรรเทาอาการหวัด หากคุณรู้สึกว่าอาการเริ่มแย่เป็นหวัดคัดจมูกบ่อยลองทานอโวคาโด เพราะอะโวคาโดมีวิตามินซีสูงจึงช่วยบรรเทาและป้องกันอาการหวัดได้อย่างดี นอกจากนี้วิตามินซียังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายและยังช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย เมื่อเป็นแบบนี้อาการป่วยจึงดีขึ้น ส่วนใครที่ยังไม่เป็นก็สามารถรับประทานเพื่อป้องกันอาการหวัดได้เช่นกัน
6.ดีต่อระบบขับถ่าย หลาย ๆ คนที่มีปัญหาขับถ่ายอะโวคาโดช่วยได้ เนื่องจากในอะโวคาโดมีเส้นใยสูงอุจจาระจึงไม่แข็งสามารถขับถ่ายออกมาได้ง่ายได้ อีกทั้งยังช่วยให้ขับถ่ายเป็นเวลาด้วย
7. ช่วยบำรุงสายตา ใครที่ทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ต้องจ้องจอนาน ๆ หรือพบว่าสายตามีความผิดปกติลองทานอะโวคาโดดู เนื่องจากอะโวคาโดอุดมไปด้วยวิตามินเอจึงช่วยบำรุงสายตาได้เช่นเดียวกับผักบุ้ง หากต้องการให้สุขภาพตาสดใสอยู่กับคุณไปนาน ๆ อย่าลืม
ทานอโวคาโด
8. ช่วยลูกน้อยในครรภ์มีสุขภาพดี สำหรับคุณแม่ตั้งท้อง อะโวคาโดมีโฟเลตสูงซึ่งมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาสมองของลูกน้อย คุณแม่จึงควรที่จะทานอโวคาโดอย่างเป็นประจำ
9.อุดมไปด้วยไขมันชนิดดี ในผลอะโวคาโดเต็มไปด้วยไขมันแต่กลับกลายเป็นว่าไขมันในเส้นเลือดลดลง ทั้งนี้อะโวคาโดไม่ได้ทำให้คนอ้วนหรือเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งก็เป็นเพราะไขมันในอะโวคาโดเป็นไขมันดีจึงไม่ทำลายสุขภาพ นอกจากนี้ยังจะไปช่วยดูดซึมสารแคโรทีนอยด์ที่ช่วยในการต่อต้านและขจัดอนุมูลอิสระและยังจะไปช่วยลดไขมันเลวในเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจอีกด้วย
10. ให้ประโยชน์ในเรื่องของความงาม อะโวคาโดไม่ได้ดีต่อร่างกายเท่านั้นแต่ยังดีต่อเรื่องความสวยความงามอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการนำมาสกัดเป็นเครื่องสำอางนำมาเร่งการงอกของเส้นผม หรือนำมาเป็นมาร์คสูตรอะโวคาโด ซึ่งผลที่ได้ออกมาก็ไม่ทำให้ผิดหวังเช่นกัน
ไม่น่าเชื่อว่าอะโวคาโดผลเล็กจะมีประโยชน์ได้มากมายขนาดนี้ ยังไงลองหาซื้ออะโวคาโดมารับประทานกันนะคะเพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ…..